วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

10 อาหารเพื่อสุขภาพ เคล็ดลับดีๆ ห่างไกลโรคภัย

1. ไข่ไก่

อาหารง่าย ๆ ที่หาได้ไม่ยาก อีกทั้งราคายังไม่แพงอีกด้วย ภายในไข่ไก่นั้นเต็มไปสารอาหารคุณภาพมากมาย เต็มเปี่ยมไปด้วยโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยบำรุงสายตา เพิ่มกล้ามเนื้อและพลังสมอง อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการป้องกันผิวพรรณเวลาโดนแสงแดดทำร้ายอีกด้วย เราสามารถนำไข่ไก่มาปรุงอาหารได้หลากหลาย ลองทานเมนูไข่ดาว ไข่ต้มหรือไข่ลวก วันละ 1-2 ฟอง ตอนเช้า รับรองเลยว่าคุณจะรู้สึกมีพลัง กระปรี้กระเปร่าและนำมาซึ่งสุขภาพที่แข็งแรงอย่างแน่นอน

2. บล็อกโคลี

ผักสีเขียวน่ารับประทานยอดนิยมที่เต็มไปด้วยสารอาหารมากมาย เป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามินหลากหลายชนิด ทั้งวิตามินซี วิตามินเอ หรือวิตามินเค มีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยดูแลบำรุงสายตา ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่าง ๆ มะเร็งปอดจากสารไอโซธิโอไซยาเนทส์ที่มีอยู่ภายในอีกด้วย บล็อกโคลีช่วยทำให้ร่างกายเรามีภูมิคุ้มกันที่ดีมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยบำรุงกระดูกและระบบกล้ามเนื้ออีกด้วย

3. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ไม่ว่าจะเป็น บลูเบอร์รี่ มัลเบอร์รี่ แครนด์เบอร์รี่ หรือสตรอเบอร์รี่นั้น ถือได้เป็น เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ เต็มไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยลดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ผิวพรรณให้ดูสดใส รวมไปถึงวิตามินซีที่มีอยู่สูงมากภายในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหาร ดูแลลำไส้ ระบบขับถ่ายรวมไปถึงลดอาการปวดหัว และบรรเทาไข้หวัดด้วย

4. โยเกิร์ต

นับว่าป็น เมนูเพื่อสุขภาพ ที่สามารถหาทานได้ง่าย และ หาซื้อติดบ้านไว้ยาก ทานได้ทุกช่วงเวลา สำหรับโยเกิร์ตที่มีให้เราเลือกหลายรูปแบบ คุณรู้หรือไม่ครับว่า ภายในโยเกิร์ตนั้นเต็มไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ มากมาย ที่มีคุณประโยชน์สูง ทั้งโพแทสเซียม วิตามินบี12 ฟอสฟอรัส รวมไปถึงโปรตีน ช่วยทำให้ร่างกายของคุณมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง สุขภาพดีขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ ทั้งยังดีต่อผิวพรรณ ความงามอีกด้วย

5. ถั่ว

ถั่ว ถือว่าแหล่งของธาตุเหล็กและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เป็นสารอาหารที่ช่วยให้การส่งออกซิเจนจากปอดไปเลี้ยงยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้ร่างกายของเราแข็งแรง บำรุงหัวใจ อีกทั้งยังมีไฟเบอร์ที่ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดี บำรุงลำไส้อีกด้วย

6. คะน้า

ผักที่นิยมนำมาปรุงอาหารเป็นอย่างมาก มีรสชาติกรอบอร่อย เป็น อาหารเพื่อสุขภาพที่หาซื้อได้ไม่ยาก ภายในคะน้ามีสารเบต้าแคโรทีนอยู่เป็นจำนวนมาก ช่วยในการลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด หรือมะเร็งกระเพาะอาหาร ทั้งยังมีแคลเซียมสูงช่วยในการ บำรุงกระดูกและข้อต่อ มีวิตามินที่ช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อ สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่ร่างกายอีกด้วย

7. ฝรั่ง

ผลไม้ที่เราสามารถหาซื้อได้ไม่ยาก มีราคาถูก ออกผลตลอดปี เรียกได้ว่าเป็นสุดยอด ผลไม้เพื่อสุขภาพ ที่เต็มไปด้วยวิตามินซี และใยอาหาร รวมไปถึงสารต้านอนุมูลอิสระในการช่วยกระตุ้นระบบการทำงานของเม็ดเลือดขาว ส่งผลให้ร่างกายมีภูมิคุ้นกันต่อโรคต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ช่วยในการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้ดี ดีต่อสุขภาพฟัน และผิวพรรณอีกด้วย

8. ส้ม

เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมวิตามินซีคุณภาพสูงที่ดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก มีไฟเบอร์อยู่เป็นจำนวนมาก เต็มเปี่ยมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการฟื้นฟูและสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ป้องกันผิวพรรณจากแสงแดด ฟื้นฟูและปรับสภาพผิว ดีต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกายเป็นอย่างมาก

9. ชา

การดื่มชาสักหนึ่งแก้วต่อวัน ในปริมาณที่เหมาะสมนั้น เป็นการช่วยอาการหลงลืม ฟื้นฟูความจำ ลดความเสี่ยงในการเป็นอัลไซเมอร์ และยังช่วยดูแลและฟื้นฟูสุขภาพฟันให้แข็งแรง บำรุงกระดูก อีกทั้งยังลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งอีกด้วย

10. น้ำสะอาด

สุขภาพสร้างได้ไม่ยาก เริ่มจากการดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้วต่อวัน น้ำจะช่วยเข้าไปฟื้นฟูระบบไหลเวียนโลหิตและระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย เป็นตัวช่วยให้ออกซิเจนและสารอาหารต่าง ๆ ไปเลี้ยงอวัยวะในร่างกายได้ง่ายมากขึ้น ส่งผลให้ผิวพรรณเราสดใสบํารุงสมองสดชื่น สร้างภูมิคุ้นกันที่ดีให้แก่ร่างกายอีกด้วย

และนี่ก็เป็นเคล็ดลับสุขภาพดี ที่เราสามารถเริ่มด้วยจากรับประทานเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ดีต่อร่างกายนั่นเอง เมื่อมี อาหารที่ดีต่อสุขภาพ แล้วก็อย่าลืมรับประทานให้ตรงเวลา อย่าละเลยอาหารเช้า งดการรับประทานแบบเคี้ยวคำใหญ่ ทานคำดื่มน้ำคำหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำและพักผ่อนให้เพียงพอ พร้อมทั้งทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ รับรองเลยว่าสุขภาพของคุณจะต้องแข็งแรงทั้งร่างกายผิวพรรณและสภาพจิตใจ หรือจะลองหาอาหารเสริมมารับประทานด้วยก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกดีๆ ที่จะช่วยเสริมสุขภาพของคุณให้แข็งแรงไปพร้อมกัน

วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ประโยชน์จากการรับประทานอาหารทะเล

ประโยชน์ที่ได้รับจากการไปเที่ยวทะเลและรับประทาน อาหารทะเล นอกจากจะเพลิดเพลินมีความสุขกับกิจกรรมต่างๆบนชายหาดแล้ว ยังได้คุณค่าทางอาหารมากมายจากอาหารทะเลสดๆอีกด้วย


ประโยชน์จากกุ้ง แม้ว่าหลายคนจะคิดว่ากุ้งมี โคเลสเตอรอลสูง แต่จริงๆแล้ว โคเลสเตอรอลที่พบในกุ้งนั้นเป็นโคเรสเตอรอลชนิดที่ดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย และกุ้งยังอุดมไปด้วย แร่ธาตุ โปรตีน และ คาร์โบไฮเดรต ซึ่งช่วยให้ร่างกายแข็งแรง สดชื่น กระปรี้กระเปร่า และแคลเซียมที่อยู่ในเปลือกกุ้งยังสามารถช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงอีกด้วย


ประโยชน์จากเนื้อปลา ในเนื้อปลาจะอุดมไปด้วยโปรตีน และกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยมีส่วนช่วยเสริมภูมิต้านทานโรคให้แก่ร่างกาย ทำให้ไม่อ่อนเพลียง่าย ไม่แก่ก่อนวัย ผิวพรรณสดใสมีน้ำมีนวลอยู่เสมอ และเนื้อปลายังย่อยง่ายไขมันน้อยจึงทำให้ไม่อ้วน นอกจากนี้ในปลาทะเลยังมีสาร ดีเอชเอ (DHA) สูง ซึ่งสารนี้มีความจำเป็นต่อการพัฒนาระบบของสมอง ทำให้การทำงานระบบของสมองดีอีกด้วย


ประโยชน์จากปลาหมึก ในปลาหมึกจะมีกรดไขมัน กลุ่มโอเมก้า 3 อยู่สูงมาก แม้ว่าปลาหมึกจะมีโคเลสเตอรอลสูง แต่โอเมก้า 3 ที่มีอยู่ในปลาหมึกนั้นจะไปช่วยต่อต้านไม่ให้ร่างกายมีโคเลสเตอรอลสูงขึ้นได้ และยังพบว่า คลอเลสเตอรอลที่มีอยู่ในปลาหมึกนั้นจะช่วยให้ผิวหนังแต่งตึง ใบหน้าไม่เหี่ยวย่นอีกด้วย


ประโยชน์จากปูและหอย ในเนื้อปูและหอยจะมี free amino acid 10 กว่าชนิด ที่สำคัญ ได้แก่ กรดกลูตามิก, Glycine, Proline, Histidine, Arginine เป็นต้น นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วย วิตามินเอ บีหนึ่ง บีสอง บีสาม ซี และดี ที่สำคัญในหอยนางรมยังมีสารประกอบสำคัญที่เรียกว่า เทารีน (Taurine ) และมีแร่ธาตุสังกะสี อยู่มากซึ่งสารสองตัวนี้จะทำงานร่วมกัน และมีผลต่อการส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศได้อย่างดี

นอกจากนี้ในอาหารทะเลทุกชนิด จะมี สารไอโอดีนสูงช่วยให้ไม่เป็นโรคคอหอยพอก และยังมี โอเมก้า 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันอิ่มตัวอยู่สูง มีผลช่วยลดโคเลสเตอรอลในเส้นเลือดได้ ป้องกันการเลือดจับตัวเป็นก้อนซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะหัวใจล้มเหลว และยังช่วยพัฒนาสมองและพัฒนาระบบประสาท ก่อให้เกิดผลดีต่อการรักษาโรคความจำเสื่อมได้อีกด้วย อาหารทะเลมีประโยชน์มากมายขนาดนี้ ใครที่เป็นโรคแพ้อาหารทะเลน่าเสียดายแย่เลยนะ


ได้เกร็ดความรู้กันไปแล้ว วันนี้มาทานอาหารทะเลที่ The Home Ubon กันนะคะ อยากแนะนำเมนู ทะเลลวกจิ้ม ให้ได้ลองกัน เพราะถ้าสั่งเมนูนี้เราจะได้ทานอาหารทะเลหลายอย่างมากอาทิ เช่น ปลา, ปลาหมึก, กุ้ง และหอยแมลงภู่ เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด ทานข้าวไปแล้วต้องอยากสั่งเพิ่มอีกแน่ๆ หรืออยากทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพสามารถมาทานได้ที่ร้าน The Home Ubon ได้นะคะ รับรองว่าอาหารอร่อยทุกอย่างค่ะ

วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

เสน่ห์เครื่องเทศ อย่างผงกระหรี่ที่คุณไม่เคยรู้


ผงกะหรี่ เครื่องเทศ สีเหลืองกลิ่นหอมที่เราได้ลิ้มลองกันจากหลายเมนู โดยที่ไม่เคยรู้ว่านี่แหละของดีใกล้ตัว !

ยังมีอาหารอีกหลายอย่างที่ซ่อนประโยชน์เอาไว้ในตัวเองโดยที่เราก็คาดไม่ถึง อย่างผงกะหรี่นี่ก็เช่นกันค่ะ ที่นอกจากจะเป็นอาหารจานโปรดของใครหลายคนแล้ว เครื่องเทศสีเหลืองหอม ๆ ที่เราใช้เป็นส่วนประกอบของหลายเมนูยังเปี่ยมไปด้วยสรรพคุณหลากหลายจนต้องยกให้เป็นเมนูดีใกล้ตัว และวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักผงกะหรี่ให้มากขึ้น

เสน่ห์เครื่องเทศสีเหลือง "ผงกะหรี่ "

ผงกะหรี่ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย เพราะคำว่า กะหรี่ (KARI หรือ KARHI)
เป็นภาษาทมิฬของชาวอินเดียใต้ มีความหมายว่า "น้ำแกง"
ส่วนสาเหตุที่ชาวอินเดียนิยมนำผงกะหรี่มาประกอบอาหารนั้น เพื่อใช้ความเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศในผงกะหรี่ ช่วยปรับอุณหภูมิของร่างกายให้เข้ากับอากาศร้อน ๆ เพราะเวลากินอาหารที่มีรสชาติเผ็ดจะทำให้เหงื่อออกและยิ่งทำให้รู้สึกสบายตัวยิ่งขึ้น นอกจากนี้ผงกะหรี่ยังสามารถช่วยดับกลิ่นอาหารและถนอมอาหารได้เป็นอย่างดี ชาวอินเดียยังมีความเชื่ออีกว่าผงกะหรี่จะช่วยให้คงความเป็นหนุ่มสาวและมีอายุยืนยาว โดยวิธีการทำเครื่องแกงของชาวอินเดียทุกชนิด นิยมบดเครื่องแกงกันแบบสด ๆ ผสมเก็บไว้ใช้เป็นครั้งคราวไป สำหรับประเภทเครื่องแกงหลัก ๆ ของประเทศอินเดีย มีทั้งหมดอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ แกงแบบแห้ง และแกงแบบน้ำข้น รสชาติส่วนใหญ่จะเน้นที่รสเผ็ดแบบจัดจ้าน



ประโยชน์ของผงกะหรี่

1. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐโคโลราโดเผยว่า ขมิ้นที่เป็นส่วนประกอบหลักในผงกะหรี่มีสรรพคุณลดความเสี่ยงโรคเบาหวานได้ โดยอ้างจากผลการทดลองเมื่อปี 2011 ซึ่งถูกตีพิมพ์ในวารสาร Food and Chemical Toxicology ที่พบว่า สารประกอบอย่างเคอร์คิวมินในขมิ้นสามารถคงระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้พุ่งสูงขึ้นได้ อีกทั้งยังช่วยควบคุมระดับอินซูลินในหนูทดลองที่กินอาหารไขมันสูงได้ด้วย ทั้งนี้นักวิจัยยังบอกอีกด้วยนะคะว่า เคอร์คิวมินมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับยารักษาโรคเบาหวานเลยทีเดียว

2. กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

เครื่องเทศชนิดต่าง ๆ ที่ผสมอยู่ในผงกะหรี่มีทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกายเรา โดยเฉพาะขมิ้นที่มีรายงานจากวารสาร Nutritional Biochemistry ว่ามีปริมาณวิตามินดีมากพอที่จะช่วยให้ร่างกายจับโปรตีนจากอาหารที่กินเข้าไปได้ดีขึ้น เสริมความแข็งแรงให้กับระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยังช่วยร่างกายต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรียและไวรัสที่ก่อเชื้อวัณโรคได้อีกด้วย

3. ป้องกันการอักเสบ

ศาสตราจารย์เอเดรียน กอมบาร์ท ผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยออริกอนเผยว่า สารเคอร์คิวมินในขมิ้นมีสรรพคุณต่อต้านการอักเสบ โดยเฉพาะการอักเสบในช่องท้องและลำไส้ อีกทั้งเคอร์คิวมินยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระได้ด้วยล่ะ

4. ช่วยลดคอเลสเตอรอล

เครื่องเทศอย่างลูกซัดก็มีสรรพคุณที่ไม่ธรรมดา โดยผลการศึกษาเมื่อปี 2011 ที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Experimental Pathology พบว่า เมื่อให้หนูทดลองกินอาหารที่มีลูกซัดประกอบอยู่ประมาณ 12% จะพบว่าระดับคอเลสเตอรอลในหนูทดลองลดลงราว ๆ 42% อีกทั้งปริมาณคอเลสเตอรอลในถุงน้ำดียังลดได้ถึง 75% และไขมันในตับยังลดลงได้ถึง 22% เลยทีเดียวค่ะ แต่ผลการวิจัยนี้ก็ยังต้องศึกษาในคนอีกต่อไปนะคะ


5. ป้องกันโรคอัลไซเมอร์

ผงกะหรี่จัดเป็นเครื่องเทศที่มีสรรพคุณช่วยต่อสู้กับอาการอักเสบ โดยมีการศึกษาในสัตว์พบว่า ส่วนผสมอย่างขมิ้นในผงกะหรี่ สามารถช่วยขจัดโปรตีนที่มีชื่อว่าเบต้าอะมีลอยด์ (Beta-Amyloid) อันเป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์ได้

6. ช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็ง

ผลการศึกษาใน Korean Journal of Urology เผยว่า หากเรารับประทานเครื่องเทศอย่างผงกะหรี่ได้ทุกวัน จะช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ด้วยล่ะค่ะ เพราะสารเคอร์คิวมินมีความสามารถในการต่อสู้และป้องกันมะเร็ง โดยจะไปรบกวนการพัฒนาของเซลล์มะเร็ง รวมทั้งยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งไปพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้สมาคมมะเร็งแห่งประเทศสหรัฐอเมริกายังพบอีกว่า เจ้าสารเคอร์คิวมินยังมีฤทธิ์ปราบเซลล์มะเร็งร้าย ทำให้เนื้องอกหดตัว และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเคมีบำบัดได้อีกต่างหาก

7. ดีท็อกซ์ร่างกาย

คราวนี้เป็นคิวของลูกผักชีในผงกะหรี่กันบ้าง โดยมหาวิทยาลัยแคนซัสได้เผยผลการศึกษามาว่า ลูกผักชีมีสรรพคุณขจัดโลหะหนักที่ตกค้างอยู่ในร่างกาย เช่น สารตะกั่วและสารปรอท ซึ่งเป็นสารที่มีผลต่อการลดระดับฮอร์โมนเพศชาย และลดจำนวนสเปิร์ม อีกทั้งการกำจัดสารตะกั่วออกไปจากร่างกายยังจะช่วยลดภาวะเครียดที่เกิดจากออกซิเดชั่น (oxidative stress ) หรือภาวะที่อนุมูลอิสระเข้าไปทำลายระบบต่าง ๆ ภายในเซลล์ร่างกาย หรืออาจทำลายลึกไปในระดับดีเอ็นเอ ซึ่งอาจก่อให้เกิดโรคเสื่อมเรื้อรังชนิดต่าง ๆ ได้


สรรพคุณผงกะหรี่มีมากมายขนาดนี้ เชื่อว่าหลายคนคงอยากจะกินเมนูผงกะหรี่กันทุกวันเลย ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันค่ะว่าวันนี้เรานำเมนูอะไรมาฝาก พูดถึงผงกะหรี่ต้องนี่เลยค่ะ ปลาหมึกผัดผงกะหรี่ ปลาหมึกเนื้อนุ่ม นำมาผัดคลุกเคล้ากับผงกะหรี่ สีเหลือง หอมเครื่องเทศที่ผสมผสานเข้ากันได้เป็นอย่างดี เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยจนวางช้อนไม่ลงแน่นอนค่ะ

วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ประโยชน์ที่หลากหลายเพื่อสุขภาพกับผักผลไม้ 5 สี


ใครๆก็ทราบดีว่าผักผลไม้นั้นมีประโยชน์ อุดมไปด้วยแร่ธาตุ และวิตามินมากมาย ซึ่งนอกจากแร่ธาตุที่กล่าวไปแล้ว ผักและผลไม้ ยังจัดว่าเป็นอาหารที่มีสารอาหารในกลุ่ม ไฟโตนิวเทรียนท์สูง ซึ่งไฟโตนิวเทรียนท์ หรือเรียกแบบไทยๆว่า สารพฤกษาเคมี คือ สารอาหารที่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ ต้องได้รับจากพืชเท่านั้น โดยเป็นสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อม กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และช่วยป้องกันการติดเชื้อและการเกิดโรคต่างๆได้มากมาย

จากการศึกษาวิจัยมากมายพบว่าในผักผลไม้แต่ละสี จะมีปริมาณและชนิดของไฟโตนิวเทรียนท์ที่มีประโยชน์ต่างกันไป ดังนั้นการที่จะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและหลากหลาย จะแนะนำให้ทานผักและผลไม้หลากสีให้ได้ในปริมาณ 400-500 กรัมต่อวัน

ซึ่งจาการสำรวจเชิงสถิติในประเทศไทย คนไทยร้อยละ 80 ทานผักและผลไม้เพียง 276 กรัมต่อคนต่อวันเท่านั้น และด้วยสภาพอากาศ และการเก็บรักษาหลังการเก็บเกี่ยว ทำให้ปริมาณสารอาหารในผักและผลไม้ สูญเสียไปมากว่า 20% จึงเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้คนไทยป่วยเป็นโรคต่างๆเพิ่มมากขึ้น


ประโยชน์ของผักผลไม้ 5 สี

เมื่อพูดถึงสีสันของผักและผลไม้ สีสันเหล่านั้นเป็นสีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เป็นเม็ดสีที่พืชสร้างขึ้น ตามแต่ละลักษณะและชนิดของผักผลไม้นั้นๆ ซึ่งสีเป็นตัวบ่งบอกสารอาหารที่มีแตกต่างกัน โดยจะแบ่งออกเป็น 5 สี 5 กลุ่มใหญ่ๆได้แก่

ผักผลไม้สีเขียว

สีเขียวในผักและผลไม้มาจากเม็ดสีของสารที่มีชื่อว่า คลอโรฟิลด์ (Chlorophyll) โดยจะมีตั้งแต่เขียวเข้มจัด ได้แก่ คะน้า สาหร่ายบางชนิด ตำลึง ผักใบเขียวต่างๆ และสีเขียวแบบทั่วไป เช่น แอปเปิ้ลเขียว ฝรั่ง ผักกาด

ซึ่งในผักสีเขียวที่มี คลอโรฟิลด์ (Chlorophyll) นี้ เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการต่อต้านโรคมะเร็ง ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ช่วยยับยั้งการเกิดริ้วรอย นอกจากนี้การทานผักใบเขียวเป็นประจำจะช่วยให้การขับถ่ายดี ลดอากาท้องผูก เนื่องจากผักเหล่านี้มีกากใยสูงมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก เนื่องจากให้พลังงานต่ำ

ผักผลไม้สีแดง

สารสีแดงในผักและผลไม้ที่มีสีแดงคือ ไลโคปีน (Cycopene) และ เบตาไซซีน (Betacycin) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนสำคัญในการช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งตามอวัยวะต่างๆในร่างกาย แต่จะเด่นที่สุดคือช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งที่ต่อมลูกหมาก รองลงมาคือมะเร็งปอด และมะเร็งที่กระเพาะอาหาร

นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์เรื่องผิวพรรณ ลดการเกิดสิวและทำให้รอยแผลเป็นจางลงได้อีกด้วย ผักและผลไม้ที่อยู่ในกลุ่มสีแดงได้แก่ มะเขือเทศ สตรอเบอร์รี่ บีทรูท เชอรี่ แตงโม เกรพฟรุตสีชมพู ฝรั่งสีชมพู และกระเจี้ยบแดง


ผักผลไม้สีเหลืองและส้ม

ผักและผลไม้ที่สีเขียวอ่อนและสีเหลืองจะมีสารที่ชื่อว่า ลูทีน (Lutein) อยู่มาก ซึ่งมีประโยชน์โดยตรงกับดวงตา ช่วยป้องกันและชะลอความเสื่อมของจอประสาทตาในผู้ใหญ่ และมีส่วนช่วยในการพัฒนา การมองเห็นในเด็กเล็กได้อีกด้วย

สำหรับผักและผลไม้ที่มีสีส้ม จะมีสารเบต้าแคโรทีน (Betacarotene) ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล,ไขมันในเส้นเลือด ช่วยให้ผิวพรรณสดใส รักษาความชุ่มชื่นให้ผิว ลดความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย ช่วยส่งเสริมและสร้างภูมิคุ้มกัน

ซึ่งผักและผลไม้ที่อยู่ในกลุ่มสีเหลืองและส้มได้แก่ ส้ม แครอท มะละกอ มะนาว สับปะรด ฟักทอง มันเทศ ขนุน เสาวรส และ ข้าวโพด

ผักผลไม้ที่มีสีม่วงและม่วงอมน้ำเงิน

สีสันแปลกตาเหล่านี้มาจากสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยทำลายสารที่ทำให้เกิดมะเร็ง ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ต่างๆ ชะลอความเสื่อมถอย ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ ช่วยยับยั้งเชื้ออีโคไลที่ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงเส้นผมให้เงางามอีกด้วย

โดยสารสีม่วงนี้จะพบมากใน มะเขือสีม่วง ลูกแบล็คเบอรี่ บลูเบอรี่ ดอกอัญชัน กะหล่ำปลีที่มีสีม่วง มันเทศสีม่วง และหอมแดง


ผักผลไม้ที่มีสีขาวจนถึงน้ำตาลอ่อน

จะเป็นผักและผลไม้ที่มีสารอาหารที่เรียกว่า แซนโทน (Xanthone) ซึ่งเป็นสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ช่วยลดอาการอักเสบ ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ยังมีสารอื่นๆที่ประกอบด้วย กรดไซแนปติก (Synaptic acid) และ อัลลิซิน (Allicin) โดยสารเหล่านี้มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดไขมันในเลือด ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตและโรคหลอดเลือดหัวใจได้

ผักและผลไม้ที่มีสีขาวจนถึงน้ำตาลอ่อนได้แก่ ขิง ข่า กระเทียม กุยช่าย ขึ้นช่าย เซเลอรี่ เห็ด ลูกเดือย หัวไชเท้า ถั่วเหลือง ดอกกะหล่ำ ถั่วงอก และงาขาว ส่วนผลไม้ก็ได้แก่ กล้วย สาลี่ พุทรา ลางสาด ลองกอง ลิ้นจี่ ละมุด แห้ว เป็นต้น

เมื่อทราบถึงประโยชน์ของผักทั้ง 5 สีกันแล้ว ลองหันมาสังเกตุสีสันที่มาพร้อมประโยชน์ และควรหันมาทานผักและผลไม้กันให้มากขึ้นโดยทานเฉลี่ยและกระจายไปในทุกๆกลุ่มทุกๆสี สลับหมุนเวียนกันไป นอกจากประโยชน์จากสารอาหารแล้ว ผักและผลไม้ยังเป็นตัวช่วยที่ดีในการลดน้ำหนักได้อีกด้วย และต้องไม่ลืมเรื่องการล้างทำความสะอาดผักและผลไม้ด้วย เพื่อป้องกันสารพิษตกค้างต่างๆที่แฝงมากับผักและผลไม้อีกทาง

บัวบก บำรุงสมอง เพิ่มความเยาว์วัย

เมื่อพูดถึง บัวบก หลายคนคงจะถึงบางอ้อกันเลยทีเดียว เพราะเป็น สมุนไพร ที่รู้กันดีว่ามีสรรพคุณแก้ร้อนใน ช้ำใน หรือใครที่กระหายน้ำสามารถดื่ม...